พูดถึงการออกกำลังกายกับผู้หญิง

พูดถึงการออกกำลังกายกับผู้หญิง

      พูดถึงการออกกำลังกายกับผู้หญิง นานมาแล้ว...ผู้หญิงส่วนมากรับหน้าที่ตำข้าวด้วยกระเดื่อง เพื่อหุงหาให้สมาชิกในครอบครัวได้กิน ต้องออกแรงทั้งแขนเหนี่ยว ทั้งเท้าถีบ กล้ามเนื้อของผู้หญิงจึงหนุนอยู่ภายใต้ไขมันตามส่วนต่างๆ ทั้งแขน ขา อก หลัง ไหล่ และท้อง จึงนุ่มแน่นและเต่งตึง ผู้หญิงยังไม่รู้จักฟิตเนสเหมือนสมัยนี้และก็ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องไปรู้จักมันด้วย

      คุณย่าคุณยายในสมัยนั้นเมื่อถึงคราวสิ้นลม นมยังตั้งชัน ทั้งที่เมื่อตอนหายใจอยู่ก็ไม่เคยได้ยินและรู้จักคำว่า ตบนมเสริมเต้าฉีดซีลิโคนเวลาต่อมา คนเริ่มขาดกล้ามเนื้อ ทำตัวอ้วนเนื้อบวมฉุ เหี่ยวย่น หย่อนยานเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกและเพิ่มความเกียจคร้านเกิดขึ้นมากมายถึงอย่างั้นแล้ว ก็ยังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่มีความเชื่อผิดๆ กลัวว่าตัวจะมีกล้าม แต่หารู้ไม่ว่า ถ้าหากขาดกล้ามเนื้อโดยสิ้นเชิง อาการอัมพาตก็จะถามหาในขณะเดียวกัน ก็มีธุรกิจหลอกสูบเงินในกระเป๋าของคนที่ตกเป็นเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจยาลดน้ำหนัก ลดหน้าท้อง ลดความอ้วน เสริมนม ผ่าตัดทำศัลยกรรมโดยเฉพาะการโหมโฆษณาสร้างค่านิยมผิดๆ อย่างเช่น ต้องผอมเท่านั้นถึงจะหุ่นดี ที่จริงแล้วผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัว 70กิโลกรัม ก็คือผู้ที่มีไขมันในอัตราส่วนจ่อกล้ามเนื้อ 5:1 ในขณะที่ผู้หญิงคนเดียวกันนี้ลดน้ำหนักลงมาถึง 50กิโลกรัม ก็ยิ่งมีอัตราส่วนไขมันต่อกล้ามเนื้อเป็น 1:10 ซึ่งแย่ยิ่งกว่าเดิม เพราะเป็นได้แค่เพียงย่อขนาดให้เล็กลงเท่านั้นและส่วนหนึ่งที่หายไปด้วย คือ เนื้อ ไม่ใช่ไขมันเพียงอย่างเดียว เรียกได้ว่าเป็นโรคขาดกล้ามเนื้อ(Sarcopenia) ทั้งตอนอ้วนและตอนผอม รูปร่างจีงขาดความมีส่วนเว้า ส่วนโค้งและส่วนนูนซึ่งผู้หญิงมีความเป็นฮอร์โมนเพศหญิง

      ส่วนผู้ชายมีความเป็นฮอร์โมนเพศชาย การฝึกเพาะกายสามารถเปลี่ยนแปลงกล้ามเนื้อได้แต่ไม่สามารถแปลงฮอร์โมนเพศได้ ดังนั้น ผู้หญิงไม่ควรกลัวการฝึกเพาะกายจะทำให้มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆเหมือนผู้ชายขึ้นมาได้ ตามจริงแล้ว การฝึกด้วยอุปกรณ๋น้ำหนักสามารถปรับปรุงทรวดทรงองค์เอวของผู้หญิงได้เป็นธรรมชาติมากกว่า และได้ผลเร็วกว่าการฝึกแอโรบิค โยคะ ถีบจักยาน กายบริหาร ว่ายน้ำ เป็นต้น

CR. Pic K.ออม